สูตรแบล็คแจ็ค ศึกษาเคล็ดลับก่อนลงมือเล่น เพิ่มโอกาสสู่การคว้ารางวัล

สูตรแบล็คแจ็ค ศึกษาให้รู้

สำหรับบทความนี้เราจะมาสอนเทคนิคของเกมแบล็คแจ็คกัน ใครที่ยังไม่รู้จักว่าเกมนี้ว่าเกี่ยวกับอะไรและเล่นยังไง ก็กดไปอ่านกันได้ที่บทความ แบล็คแจ็ค กันก่อนได้ครับ หลังจากที่ได้อ่านพื้นฐานเกี่ยวกับเกมกันไปแล้ว ก็มาต่อกันที่เรื่องของเทคนิคเพื่อการพัฒนาแนวทางการเล่นต่อไปกันดีกว่าครับ ไปดูกันว่าเราจะตัดสินใจวางแผนสำหรับเกมนี้กันอย่างไรดี มาดูกัน

แนวทางในการตัดสินใจของเกม Black Jack

1. กรณีแต้มผู้เล่นอยู่ระหว่าง 12-16 แต้ม
หากแต้มอยู่ระหว่างนี้ เราจะพิจารณาจากแต้มของเจ้ามือมาประกอบร่วมกับแต้มของผู้เล่น ซึ่งแนะนำให้ประเมินตามนี้ครับ

1.1 ผู้เล่นได้ 12 แต้ม
– หากเจ้ามือได้ 4-6 แต้ม ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเรียกไพ่เพิ่ม นั่นก็เพราะเจ้ามือจะต้องได้ 7-10 แต้ม ถึงจะชนะแต้มที่เรามี เรียกได้ว่าความเป็นไปได้น้อยกว่า 50% ดังนั้นโอกาสที่เราชนะมีสูงกว่า จึงให้ยุดเท่านี้ก็พอ

หากเจ้ามือได้แต้มอยู่ที่ 2-3 และ 7-10 แนะนำให้ผู้เล่นเรียกไพ่เพิ่ม 1 ใบ เพราะผู้เล่นมีโอกาสจั่วไพ่เพิ่มและได้แต้มเสมอ หรือมากกว่าเราเกิน 50% แถมไพ่ที่ได้แต้มต่ำมากๆ สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้มากกว่าหนึ่งครั้งอีกด้วย ฉะนั้นผู้เล่นจึงควรจั่วเพิ่มเพื่อให้คะแนนสูงขึ้นครับ

1.2 ผู้เล่นได้ 13-14 แต้ม
ถ้าหากว่าเจ้ามือได้แต้มอยู่ระหว่าง 2-6 แต้ม ก็ให้ผู้เล่นทำการหยุดเรียกไพ่เพิ่ม
ส่วนในกรณีที่เจ้ามือได้แต้มอยู่ระหว่าง 7-10 หรือ A ก็ให้ทำการเรียกไพ่เพิ่ม 1 ใบครับ

1.3 ผู้เล่นได้ 15 แต้ม
หากเจ้ามือได้แต้มอยู่ระหว่าง 2-6 แต้ม ก็ให้ผู้เล่นทำการหยุดเรียกไพ่เพิ่ม
ส่วนในกรณีที่เจ้ามือได้แต้มอยู่ระหว่าง 7-9 แต้ม หรือ A ผู้เล่นควรเรียกไพ่เพิ่ม 1 ใบครับ
แต่ถ้าหากเจ้ามือได้ 10 แต้ม ให้ทำการหมอบยอมแพ้ เพราะเจ้ามือมีโอกาสได้แบล็คแจ็ค ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเสียเงินเพียงครึ่งเดียว

1.4 ผู้เล่นได้ 16 แต้ม
จะคล้ายๆ ข้อก่อน ซึ่งก็คือ
หากเจ้ามือได้แต้มอยู่ระหว่าง 2-6 แต้ม ก็ให้ผู้เล่นทำการหยุดเรียกไพ่เพิ่ม
ส่วนในกรณีที่เจ้ามือได้แต้มอยู่ระหว่าง 7-8 แต้ม หรือ A ผู้เล่นควรเรียกไพ่เพิ่ม 1 ใบครับ
แต่ถ้าหากเจ้ามือได้ 9-10 แต้ม ให้ทำการหมอบยอมแพ้ เพราะเจ้ามือมีโอกาสได้แบล็คแจ็ค ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเสียเงินเพียงครึ่งเดียว

ต่างจากข้อก่อนตรงที่ 9 แต้ม ก็ให้หมอบด้วยเช่นกัน

2. กรณีแต้มอื่นๆ ของผู้เล่น ต่ำให้เรียกเพิ่ม สูงให้หยุด
ถือเป็นหลักการเล่นพื้นฐานของ แบล็คแจ็ค อยู่แล้ว เพียงแต่ทีมงานจะมานิยามค่าตัวเลขให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งหากดูจากตัวเลขในข้อที่แล้ว ก็คงจะพอเดาได้ไม่ยาก

น้อยกว่า 12 เท่ากับ “ต่ำ”

เป็นหลัการทำความเข้าใจที่ง่ายมากที่คะแนนตั้งแต่ 11 ลงมาควรจะเรียกไพ่เพิ่ม สาเหตุนั่นก็เพราะ แต้มสูงสุดที่เรามี หากเรียกไพ่เพิ่มแล้วได้ 10 แต้ม ก็จะทำให้เราได้แบล็คแจ็ค และไม่ว่าจะยังไง มันก็ไม่มีทางที่เราจะได้ไพ่เกิน 20 คะแนนอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งอันที่จริงจะเรียกว่าบังคับเรียกไพ่เพิ่มก็ไม่ผิดซะทีเดียว

สูงกว่า 16 เท่ากับ “สูง”
ส่วนคะแนนสูง ให้นับเริ่มตั้งแต่ 17 เป็นต้นไป หากเราได้แต้ม 1-4 คะแนน ก็จะไม่เกิน 21 แต้ม แต่ก็จะเห็นได้ว่า จำนวนที่เราต้องการนั้น มีค่าต่ำกว่า 40% เสียอีก ฉะนั้น แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเรียกไพ่เพิ่มดูจะสมเหตุสมผลกว่า ยกเว้นคนที่ต้องการวัดดวงเพื่อชนะขาดเท่านั้นเอง

ก็ถือว่าทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็น สูตรแบล็คแจ็ค ที่จะช่วยแนะนำแนวทางในการเล่นให้กับผู้เล่นได้ประมาณหนึ่ง หากใครจะเล่นนอกเหนือจากนี้ก็ไม่ผิดซะทีเดียว เพราะคนที่ดวงแข็ง ก็คงชอบแนววัดดวงเพิ่มเติม แม้จะสูงแล้ว ก็อยากได้แบบชนะชัวร์ๆ ก็มีเช่นกัน ดังนั้นแนะนำว่านำไปปรับประยุกต์อย่างเหมาะสมครับ

สำหรับเกมนี้จะมีให้เล่นบนแอพอย่าง 918Kiss หรือถ้ามองหารูปแบบการเล่นประเภท คาสิโนสด ลองเปิดบัญชีที่ Star99 กันดูครับ เพราะเกมเขาเยอะจริงๆ

หากติดขัดสิ่งใด ก็ทักกันมาได้เลยครับที่ไลน์ @168stargame

และสามารถหาอ่านคำตอบเพิ่มเติมเรื่องต่างๆ ได้ที่ คำถามคาสิโน